สถานที่ท่องเที่ยว ถ้าเรามีวันหยุดยาวหรือเที่ยวสุดสัปดาห์หลายคนคงอยากเที่ยวตามธรรมชาติ ขึ้นภูเขา ทะเล ล่องเรือ เที่ยวแพเมืองกาญ หรือไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่น้อยคนที่จะไปเที่ยวต่อสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้นึกถึงความหลังครั้งที่เราเคยเป็นเด็กมาก่อน สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้จัดแสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อน ความเรียบง่าย ความสงบสุข ไม่ต้องรีบร้อนในการใช้ชีวิตประจำวัน จึงอยากนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้ไปแวะเยี่ยมชมนึกถึงความหลังกันสักนิดนึง หรือนึกถึงวิถีชีวิตสมัยก่อนนั่นเอง
สถานที่แรกที่ผมแนะนำอยู่ในจังหวัดนนทบุรีนั่นคือ ชมเชย ตัวผมเองยังไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้เลยว่ามันเป็นสถานที่เกี่ยวกับอะไรแต่เมื่อดูตามรูปภาพแล้ว ผมตั้งชื่อให้มันได้เลยว่า the city of memory ชมเชย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนววินเทจหรือเป็นเหมือน studio ขนาดเล็กๆ แต่ถ้าคุณได้เข้าไปข้างในของสถานที่แห่งนี้แล้วคุณจะรู้ว่าสตูดิโอแห่งนี้มีขนาดที่ใหญ่และกว้างมาก ด้วยความที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิญให้รำลึกถึงความเก่า ความคลาสสิค วินเทจ ทำให้การตกแต่งขอสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ใช้ความโดดเด่นในยุค 80 ได้เป็นอย่างดี และเหตุผลที่ทำให้สตูดิโอ ชมเชย แห่งนี้โดดเด่นหรือไม่เหมือนใครคือ เอกลักษณ์ของการใช้สีสันในยุคสมัยก่อนใช้ความวินเทจได้อย่างลงตัว
และร้านค้าในสถานที่ท่องเที่ยวอย่างชมเชยได้จำลองการแต่งร้านสไตล์คลาสสิคในยุค 7 0 ถึงยุค 8 0 ได้เป็นอย่างดี สิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อาหารของกิน ร้านอาหารก็ทำออกมาได้เหมือนมาก และมีปั๊มน้ำมันที่ทำออกมาแล้วให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในยุคของคาวบอยเลยก็ว่าได้ มีรถลากไว้คอยให้บริการ ตกแต่งภายในร้านต่างๆ ก็จะดึงเอาความเป็นเอกลักษณ์ของสมัยก่อนออกมาได้อย่างเต็มที่ ทำป้ายโฆษณาต่างๆ ออกมาดีมาก อีกทั้งของเล่นสมัยก่อนที่ผมอยากได้แต่สมัยนี้ไม่มีจำหน่ายแล้ว แต่ที่นี่มีทุกอย่าง ของเล่นทุกอย่างที่สมัยเด็กผมต้องการ โดยที่สถานที่ท่องเที่ยวอย่างชมเชยนั้นได้แบ่งออกเป็นหลายโซนเช่น
โซนของตัวตึกที่ใช้สีสันในรูปแบบสไตล์วินเทจ รวมๆ แล้วทำให้เรานึกถึงหนังสมัยก่อน เช่นแฟนฉัน พริ้งคนเรื่องเมืองมอญ หรือหนังแนวพีเรียดต่างๆ โซนต่อมาเป็นแนวตลาดน้ำทำออกมาเป็นเหมือนตลาดน้ำสมัยก่อน ตลาดน้ำแห่งนี้แบ่งออกเป็นสองฝั่ง โดยฝั่งแรกจะมีร้านค้าหรือเน้นไปทางขายของเสียมากกว่าแต่ก็มีจุดถ่ายภาพมากมายเหมือนกัน อีกฝั่งก็จะมีร้านค้าแต่ไม่มากนัก และเพื่อเข้าสะพานไปอีกฝั่งก็จะเป็นร้านอาหารที่ดูทรงแล้วทำออกมาเป็นแนวโบราณ ทำจากไม้ที่มีสีขาวแล้วตรงกลางมีสระว่ายน้ำอยู่ .
ต่อมาคือบ้านบางเขน ไปสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของวัยรุ่น ภายในบ้านบางเขนแห่งนี้จะมีของสะสมออกไปทางแนวของโบราณในยุคสมัยต่างๆ ส่วนมากจะเป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ ในสมัยก่อน สถานที่ท่องเที่ยวอย่างบ้านบางเขนเป็นเหมือนที่ hang out ของวัยรุ่นและคนทั่วไป ไม่ว่าจะนัดเพื่อนมันต้องทำงาน อ่านหนังสือสอบ กับคนรู้ใจมาเที่ยวกันสองต่อสองก็ยังได้ และที่สำคัญบ้านบางเขนแห่งนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในส่วนของร้านค้าและร้านกาแฟ จะเปิดบริการตั้งแต่ประมาณช่วงตอนเช้าประมาณ7:00 น จนถึงประมาณตี 2 กว่าๆ และฟรี WiFi อีกต่างหาก . เมื่อเดินเข้าไปสักพักจะเจอกับพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กซึ่งได้คือพิพิธภัณฑ์โค้ก ไม่ต้องแปลกใจครับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมสินค้าที่ผลิตออกมาจากบริษัทโคคาโคล่าหรือโค้กในปัจจุบันเอง .
ต่อมาจะเป็นแนวตลาดริมคลองบางหลวง ตลาดแห่งนี้จะแสดงถึงความเป็นอยู่วิถีชีวิตแบบเก่าๆ ของชุมชนริมคลองบางหลวง . พูดถึงชุมชนริมคลองบางหลวงแล้วหลายคนจะคิดถึงความสงบ ความเรียบง่ายในการใช้ชีวิตในอดีตแล้วถ้าพูดถึงในปัจจุบันคงไม่มีความเรียบง่ายในการใช้ชีวิตอย่างแน่นอนถือว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในสมัยนี้ ตลาดแห่งนี้เป็นชุมชนขนาดเล็กแต่มีความน่าสนใจในวิถีชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างมากวิถีชีวิตที่ทำให้เราคิดถึงวันเก่าๆ กลิ่นอายของความหลัง ถ้าพูดถึงเสน่ห์ขอสถานที่ท่องเที่ยวตลาดริมคลองบางหลวงแห่งนี้แล้วคงเป็น รูปแบบการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและความสงบที่หาได้ยาก
และที่สำคัญชุมชนแห่งนี้เกิดขึ้นมาพร้อมกับกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียว . และแน่นอนมีร้านกาแฟสไตล์ย้อนยุควินเทจอยู่ด้วยร้านตั้งอยู่ริมน้ำทำให้อากาศไม่ร้อนลมพัดเย็นสบาย มีเมนูแนะนำคือกาแฟทุเรียนและชากุหลาบ . และสถานที่ท่องเที่ยวที่คล้ายกันแต่ก็น่าสนใจไม่แพ้กันคือชุมชนเก่าหัวตะเข้แถวลาดกระบัง สถานที่แห่งนี้มีอายุราวๆ เกือบ 100 ปีเลยก็ว่าได้ มีบ้านเรือนสมัยก่อนแสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อนที่มีแต่ความสงบและเรียบง่าย . จะมีกิจกรรมดอกไม้แรกยิ้มแย้ม เหมือนเป็นการนำเอาดอกไม้มาตกแต่งทั่วตลาดให้มีความสวยงามแล้วก็เป็นอย่างที่เขาหวังมึงออกมาที่สวยงามมาก มีจุดถ่ายรูปมากมายให้ได้เลือกสรร.
ต่อมาคือพิพิธภัณฑ์บางลำพู อดีตความรุ่งโรจน์เฟื่องฟูของพระนคร พิพิธภัณฑ์บางลำพูแห่งนี้จะแสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนบางลำพูตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน ประวัติการขุดคลองในสมัยก่อน การจำลองของการสร้างสันกำแพงเมืองซึ่งข้างใต้พิพิธภัณฑ์บางลําพูนแห่งนี้ก็ยังมีซากปรักหักพังของสันกำแพงอยู่เหมือนกัน แล้วจะมีการให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการทำเหรียญกษาปณ์ จะมีการย่อขนาดของเมืองหลวงของประเทศไทยอย่างกรุงเทพมหานครมาให้ชมในพิพิธภัณฑ์บางลำพูแห่งนี้ด้วย
และจะมีการจำลองของต้นลำพูซึ่งมีกิ่งไม้ของจริงประดับอยู่เหมือนกันเมื่อเอามือไปสัมผัสบริเวณกิ่งไม้ของต้นลำพูก็จะมีการจำลองของหิ่งห้อยที่มาเกาะตามกิ่งไม้ต้นลำพู และบริเวณชั้นที่ 1 จะเป็นการแสดงประวัติการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 แบ่งออกเป็นทั้งหมดสามส่วนคือ คู่บารมีพระภูมินทร์ ปิ่นพระขัตติยราช และ บรมราชินีนาถแห่งแผ่นดิน ภายในพิพิธภัณฑ์บางลําพูนก็จะมีการจัดนิทรรศการมากมาย ยังมีการให้ข้อมูลความรู้ของป้อมพระสุเมรุด้วยเหมือนกัน
แล้วที่สุดท้ายคือที่จังหวัดลพบุรี จังหวัดลพบุรีจะมีงานใหญ่ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วประเทศไทย คืองานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ เป็นการจำลองวิถีชีวิต ข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกิน การใช้จ่ายแลกเงินในสมัยก่อนเพราะในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชไม่ได้มีการใช้เงินเป็นแบงก์ธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์อย่างในสมัยนี้แต่จะเป็นการใช้เงินแบบพดด้วงแทน จะมีตลาดย้อนยุคที่จำลองการใช้เงินแบบพดด้วงในสมัยนั้นมาให้ซื้อของกินในตลาดแห่งนี้ได้