แค่ฝันไป “ยินดีด้วยนะจีน ที่ได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอกแบบที่ตั้งใจไว้ ยังไงอยู่ที่นู่นก็ดูแลตัวเองดีๆนะ”
“จีน เก่งมากเลยอ่ะคนสอบเป็นพันคนเลยนะ แต่จีนก็ทำมันได้ ตอนเด็กๆแม่ให้กินอะไรเนี่ยทำไมถึงฉลาดขนาดนี้”
“แม่ดีใจด้วยนะลูก ลูกเป็นความภูมิใจเดียวของพ่อกับแม่เลยนะ พ่อกับแม่ภูมิใจในตัวจีนมากๆนะลูก”
“จีน ไปอยู่นู่นก็อย่าลืมคิดถึงกันบ้างนะ”
“ขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะที่อวยพรให้จีน จีนสัญญาว่าจีนจะตั้งใจเรียนให้จบแล้วก็รีบกลับมาเมืองไทย ไม่ต้องเป็นห่วงจจีนนะคะพ่อแม่ จีนจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ถึงเวลาขึ้นเครื่องบินแล้วจีนต้องไปแล้วนะคะไว้เจอกันนะคะพ่อแม่”
.
.
.
.
“จีน ตื่นได้แล้วเช้าแล้ว ทำไมวันนี้นอนตื่นสายจังเลย รีบๆลงมากินข้าวแม่เตรียมไว้ให้แล้ว”
“ห้ะ นี่มันแค่ความฝันหรอเนี่ย นี่เราแค่ฝันไปใช่ไหม ทำไมอ่ะทำไมไม่เป็นความจริงอ่ะ ถ้ารู้ว่านี่เป็นความฝันนะ จะไม่ยอมลืมตาตื่นขึ้นมาเลย”
ฉันชื่อจีน ความฝันของฉันก็อย่างที่เห็นเมื่อกี้เลย ฉันอยากเป็นนักเรียนทุน ฉันอยากไปเรียนต่อต่างประเทศกับคนอื่นเขาบ้าง อยากเป็นความภูมิใจของพ่อแม่ อยากให้ทุกคนชื่นชมว่าฉันน่ะเก่งไม่แพ้กับใครๆหรืออาจจะเก่งกว่าใครๆด้วยซ้ำ ฉันเชื่อว่าทุกคนมีความฝันแล้วก็อยากทำมันให้สำเร็จ ส่วนฉันน่ะหรอ ถ้าวาสนาฉันดีฉันก็คงจะได้ในสิ่งที่ฉันฝันเมื่อกี้ละมั้ง
“นักเรียนมีทุนเรียนต่างประเทศเข้ามาแล้วนะ ครูเห็นในเว็บไซต์เมื่อวานนี้ ถ้านักเรียนคนไหนสนใจก็ลองสมัครเข้าสอบดู แต่ว่ามันต้องสอบแข่งขันกันทั้งประเทศ โอกาสที่เราจะได้มาก็ค่อนข้างยาก แต่ครูว่าถ้าเราทำการบ้านมาดี เราตั้งใจอ่านหนังสือครูเชื่อว่าเราจะทำได้”
โอกาสที่จะได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศมันอยู่ตรงหน้าฉันขนาดนี้จะไม่ให้ฉันคว้าไว้ได้ยังไง หลังจากที่ฉันได้ยินครูพูด ฉันก็รีบหาข้อมูลในการสมัครสอบครั้งนี้ทันที ในวันนั้นฉันรู้สึกว่าความฝันของฉันใกล้ที่จะเป็นจริงเข้ามาเรื่อยๆแล้ว ฉันดีใจมาก จนต้องรีบกลับไปบอกทางบ้าน
“แม่ เดี๋ยวจีนจะสมัครสอบชิงทุนไปเรียนต่างประเทศนะ”
“จริงหรอลูก แล้วคนสอบเยอะไหม เราจะแข่งกับเขาได้หรือเปล่า”
“จีนเชื่อว่าจีนทำได้”
ฉันรู้ว่าข้อดีของฉันก็คือความเชื่อมั่นในตัวเอง ซึ่งฉันคิดว่าคนอื่นก็อาจจะไม่มีข้อนี้ เส้นทางแห่งชัยชนะของฉันมันเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆทุกที ใกล้จนจะรู้สึกว่าพรุ่งนี้ฉันต้องเตรียมตัวเก็บกระเป๋าเพื่อที่จะไปเรียนต่างประเทศ ฉันรู้สึกไปแล้วว่าฉันตอนนี้กำลังเตรียมตัวพบกับประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ ฉันไม่รู้ว่าฉันคิดมากไปหรือเปล่า แต่ว่าเรื่องราวที่ฉันจะลงสอบครั้งนี้ฉันก็ได้บอกกับเพื่อนๆและคนรอบข้างของฉันทุกคน หลายๆคนก็แสดงความยินดีกับฉันล่วงหน้า บางคนก็บอกว่าจะคิดถึงฉัน บางคนก็ให้กำลังใจฉันในการสอบ มันยิ่งทำให้ฉันมั่นใจว่าฉันจะต้องได้ทุนเรียนต่างประเทศแน่ๆ
“จีน แล้วจะไปสอบวันไหนเตรียมตัวไปให้ดีๆนะ”
“ค่ะแม่”
“เข็มนาฬิกาที่เดินไปในแต่ละวันนั่นหมายถึงเวลาสอบที่ใกล้เข้ามาทุกที แต่ฉันไม่ได้รอวันที่จะต้องสอบ ฉันรอวันประกาศผล รอวันที่ฉันจะต้องไปทำพาสปอร์ตที่สนามบิน เตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ ฉันรอวันที่ฉันจะได้พบเจอกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในชีวิต การไปเรียนต่อต่างประเทศมันเป็นเรื่องที่น่าสนุกและน่าตื่นเต้นมากสำหรับ
แต่ความจริงแล้วฉันลืมอะไรไปหรือเปล่า…
“จีน ตั้งใจสอบนะลูก ทำข้อสอบให้เต็มที่ไม่ต้องกดดัน”
สิ่งที่ฉันลืมก็คือ ฉันลืมที่จะอยู่กับปัจจุบัน ฉันโฟกัสผิดจุด จริงๆแล้วช่วงเวลาในตอนนั้นฉันควรเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบ อย่างจริงจัง ฉันควรดูว่าฉันยังขาดอะไร และต้องเพิ่มเติมอะไรบ้างถึงจะทำข้อสอบได้ ฉันพลาดที่ตอนนั้นฉันให้ความสนใจกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ ภาพที่ฉันตื่นเต้นและดีใจมันก็เป็นแค่ภาพความคิดภายในหัวที่ฉันสร้างมันขึ้นมาเอง ในวันนี้ฉันได้เห็นข้อสอบ มันก็ยิ่งทำให้ฉันคิดได้ว่าฉันเสียดายเวลา เวลาที่ฉันคิดถึงอนาคตฉันควรเอามันมาอ่านหนังสือโฟกัสกับปัจจุบัน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะรู้ตัวให้ไวกว่านี้
ปัจจุบันก็คือความจริง แล้วความจริงในวันนี้มันก็ปรากฏว่า ฉันไม่ใช่คนที่จะได้รับทุนไปต่างประเทศอย่างที่คิดไว้ คะแนนของฉันยังไม่ถึงมาตรฐานที่เขากำหนด คะแนนของฉันไม่ได้สูงที่สุดแบบที่ฉันตั้งใจไว้ในตอนแรก แต่มันกลับกลายเป็นคนอื่นที่เขาน่าจะมีความตั้งใจและพยายามมากกว่าฉัน แต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่ตั้งใจ ฉันมีความตั้งใจที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ฉันไม่ได้มีความตั้งใจที่จะลงมือทำมันจริงๆเลยสักนิด ในวันนี้ฉันได้รับบทเรียนแล้วว่า ความฝันมันจะสำเร็จได้ มันก็ต้องลงมือทำอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่การนั่งคิด นั่งวาดภาพในหัวและมีความสุขกับมัน พอนั่นมันก็เป็นได้แค่ฝัน เราต้องอยู่กับความฝันที่เป็นได้แค่ฝันจริงๆหรอ ถ้าหากเราไม่ลงมือทำในวันนี้แล้วเราจะเริ่มทำมันในวันไหน หลังจากที่ฉันได้บทเรียนในครั้งนี้ ฉันก็ตั้งใจไว้ว่าฉันจะรีบเตรียมตัวอ่านหนังสือเพื่อรอโอกาส ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ แต่อย่างน้อยฉันก็ได้ลงมือทำ ในสิ่งที่ฉันคิดว่าฉันควรจะทำมันตั้งนานแล้ว
“ไม่เป็นไรนะลูก สอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถ้ามีโอกาสก็ค่อยลงสมัครสอบใหม่นะ”
“หนูขอโทษนะคะแม่ ที่หนูทำไม่ได้แบบที่พูด”
“ไม่เป็นไร คนเราก็ต้องมีผิดพลาดกันได้ มันก็ขึ้นกับอยู่ว่า เราจะเอาความผิดพลาดนั้นมาปรับใช้ในชีวิตเรายังไง”
โฟกัสผิดจุดก็อาจจะทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนได้ ตัวอย่างเช่นเเบบที่ฉันกำลังเจอในตอนนี้ เรื่องที่ฉันนำมาแชร์ ฉันอยากจะให้ทุกคนได้รับรู้ว่า การมีความฝันคือการลงมือทำมัน แล้วก็ต้องอยู่กับปัจจุบัน เพรสะการที่เรามีฝันแล้วได้แต่นั่งฝันมันก็คงไม่มีทางสำเร็จได้อย่างแน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความตั้งใจและพยายามที่จะทุมเทให้กับมันจริงๆ