Cursed Nakhi EP1 ในทะเลอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่งบริเวณกลางทะเลนั้น ได้ปรากฏร่างของพญานาค 3 ตน กำลังว่ายน้ำมาด้วยกันพญานาค 2 ตนที่รูปร่างใหญ่โตกำลังว่ายน้ำประคับประคองลูกพญานาคตนหนึ่งมุ่งเข้าหาฝั่งและเมื่อมาถึงฝั่งและเมื่อมาหาฝั่งพญานาคอีกตนก็รีบกระโจนลงน้ำแล้วว่ายน้ำหายไปทันทีส่วนพญานาคอึกตนได้กลายร่างเป็นผู้หญิงซึ่งน่าจะอยู่ในวัยกลางคนได้แล้ว และในอ้อมแขนของเธอนั้นก็มีเด็กน้อยตัวเล็กๆ คนหนึ่งนอนหลับปุยอยู่เด็กน้อยคนนั้นก็คือลูกพญานาคที่พญานาคทั้ง 2 ได้ว่ายน้ำประคับประคองพาเขามาที่ชายฝั่งนั้นเอง ผู้หญิงวัยกลางคนที่อุ้มเด็กอยู่นั้นได้หันไปมองท้องทะเลอันกว้างใหญ่
เธอยืนเหม่อลอยและใบหน้ามีแววเศร้าซึมโหยหาที่ ที่เธอได้จากมา แต่เมื่อเธอมองลงดูใบหน้าเด็กน้อยในอ้อมแขน ใบหน้าเศร้าซึมก็ดูจะมีความหวังขึ้นมา เธอกระชับเด็กน้อยในอ้อมกอดแน่นขึ้นแล้วหันหลังให้กับทะเลอันกว้างใหญ่ เธอเดินมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งสองเท้าเปือยเปล่าของเธอนั้นสั่นเทาเวลาเมื่อเธอเหยียบลงบนพื้นทราย เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้ขึ้นมายังผืนแผ่นดิน และเธอก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาศกลับไปที่ใต้ทะเลได้อีกหรือไม่ เธอนั้นรู้เพียงแค่ว่าเธอนั้นมีหน้าที่ปกป้องดูแลเด็กน้อยในอ้อมแขนให้อยู่รอกปลอดภัย และเธอก็ต้องอยู่เลี้ยงดูจนกว่าเด็กน้อยจะเติบใหญ่ โดยต้องมีอายุครบ 20 ปี
โดยที่เธอนั้นจะต้องดูแลตนเองให้อยู่เคียงข้างเด็กน้อยคนนี้ไปตลอดด้วย ผู้หญิงวัยกลางคน คนนั้นได้เดินลึกเข้าไปในป่า แถบชายฝั่งของทะเลเธอเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ และแม้เธอจะเดินผ่านกระท่อมร้างไป สองสามหลังแล้ว แต่เธอก็ยังเดินหน้าต่อไปเพราะเธอคิดว่าแถวที่ผ่านมายังไม่ค่อยปลอดภัยนัก จนกระทั่งเธอเดินลึกเข้าไปอีก แล้วได้เจอกระท่อมหลังหนึ่งหลังจากที่เธอได้พิจจารณาดูการะท่อมหลังนั้นแล้ว และสำรวจสภาพแวดล้อมแถวๆ นั้น จนเธอมั่นใจว่าน่าจะพักอยู่ที่นี้ได้เธอก็อุ้มเด็กน้อยเข้าไปในกระท่อมแล้วใช้เวทมนต์ที่พอจะเหลืออยู่ทำความสะอาดกระท่อมหลังนั้นอีกทั้ง ยังใช้เวทมนต์กำลังตนเองจากสัตว์ร้ายต่างๆ
ด้วยผู้หญิฃวัยกลางคน คนนี้มีชื่อว่า ประภัสสร เธอนั้นเป็นข้ารับใช้ของเจ้านาคี พิทุมมาก ซึ่งเป็นเมียหลวงของเท้าไกรนาคา แต่เท้าไกรนาคานั้นเป็นาคที่เจ้าชู้ และมีนางสยมที่เป็นนาคีสาวอีกหลายตนทำให้เมื่อเจ้านาคีพิทุมมากตั้งท้องแบะคลอดลูกออกมากเหล่านางสยมก็พากันอิจฉาแล้วก็รวมกันใส่ร้ายป้ายสี หน่ำซ้ำสิ่งที่ ใส่ร้ายป้ายสีนั้น เจ้าไกรนาคากลับเชื่อถึงขั้นโกรธเคืองจนสั่งประหารเจ้านาคีพิทุมมาก แล้วได้สาปลูกสาวของตวเองที่เป็นาคีน้อยด้วย พร้อมกับเนรเทศให้ไปอยู่กับนาคชนชั้นสามัญ ก่อนที่เจ้านาคีพิทุมมากจะถูกประหารเธอได้นำนาคีน้อยไปฝากไว้กลับปรอร้อะภัสสร และขงให้ประภัสสรนำเด็กน้อยนาคี
ขึ้นไปอยู่อาศัยบนโลกมนุษย์เพราะเธอทั้งห่วงใย และไม่มั่นใจในความปบอดภัยของลูกน้อยที่จะไปอยู่กับนาคชนชั้นสามัญแต่เธอกลับถูกจับได้ว่าจะพยายามนำลูกน้อยหนีไปโดยการฝ่าฝืนคำสั่งของเท้าไกรนาคาเธอเลยถูกสั่งประหารทันที่ และประภัสสร ที่พยายามว่ายน้ำหนีออกมาจากเมืองบาดาลพร้อมกับเด็กน้อยนาคีก็ถูกทหารดักจับ ทหารพยายามจะฆ่าเธอพร้อมกับรีดเวทมนต์ที่เธอพอจะมีอยู่ให้ออกไปจาดตัวเธอแต่คงเป็นคราวโชคดี ที่มีทหารที่จงรักภัคดีต่อเจ้านาคีพทุมมาก ได้เข้ามาช่วยเธอเอาไว้แล้วพาเธอมาส่งที่ชายฝั่งของทะเลได้ ประภัสสร นั่งมองเด็กน้อยที่หลับอยู่ที่พื้นกระท่อมอย่างหดหู่
เธอไม่เคยเลยว่าเท้าไกรนาคาจะเป็นคนโหดร้ายถึงขนาดสั่งสังหารเมียของตนเองได้ ทั้งๆ ที่นางไม่ได้มีความผิดอะไรเลย แถมยังสาปแช่งลูกสาวของตนเองอีกจริงๆ แล้วเธออยากกลับไปที่บ้านเมืองของตนเองที่ใต้ท้องทะเลในอีกฝากหนึ่ง แต่เธอก็ไม่สามารถไปได้เพราะมีทหารมากมายคอยไปดักจับเธออยู่ จนสุดท้ายแล้วเธอก็ต้องมาหลบซ้อนตัวอยู่บนโลกมนุษย์ ตามที่เจ้าพิทุมมากต้องการ
“ไม่ต้องกลัวสิ่งใดนะ เจ้าบุษบง ข้าจะดูแลท่านเอง เราจะอยู่ด้วยกันและครบ 20 ปี เมื่อไหร่ เราจะได้กลับไปยังบ้านเมืองของเรานะ”
ประภัสสร พูดปลอบเด็กตัวน้อยทั้งน้ำตาเพราะเธอนั้นทั้งสงสารนาคีตัวน้อย และหวาดกลัวโลกมนุษย์อีกด้วย ถ้าเธอยังคงมีเวทมนต์เหมือนครั้งแต่ก่อนเธอคงไม่รู้สึกหวาดหวั่นขนาดนี้ แต่ยังเป็นคราวโชคดีของเธออยู่ที่ทหารนาคาร้ายกาจตนนั้นยังรีดเวทมนต์ออกไปจากตัวเธอไม่หมด เวทมนต์ที่เธอมีอยู่ในตัวก็คงพอที่จะช่วยเหลือนาคีตัวน้อย และตัวเธอเองให้อยู่รอดปลอดภัยได้ ทั้ง 2 ตนอาศัยอยู่ที่กระท่อมแห่งนั้นเรื่อยมา จนกระทั่งเจ้า บุษบง ค่อยๆ เติบโตอย่างเด็กมนุษย์ทั่วไป และประภัสสรสอนนั้นก็ได้บอกกับเด็กหญิงว่าเธอนั้นเป็นยาย เธอไม่เคยเหล่าสิ่งอื่นใดที่นอกเหนือจากนี้ให้เจ้า บุษบง ฟังเลย
อีกทั้งยังพาเด็กหญิงออกไปเก็บผักเก็บหญ้าแบ้วเอาไปขายในตลาด ที่มีชาวบ้านมารวมตวกันค้าขาย ซึ่งตลาดนั้นก็อยู่ไกลกับกระท่อมในป่าพอสมควร แต่ประภัสสรไม่ได้หวาดกลัวสิ่งใดเพราะเวทมนต์ที่เธอพอจะมีอยู่ ก็สามารถปกป้องคุ้มครองเด็กหญิง และตัวเองได้เธอนั้นไม่ได้ออกไปพบปะผู้คนมากมายนักโดยจะพยายามปลีกตัวออกห่างจากผู้คน โดยเธอจะนับวันนับคืนเพื่อให้ครบ 20 ปี ไวๆ ในทุกครั้ง ที่ประภัสสรได้พาเจ้า บุษบง ไปขายผักในตลาดที่หมู่บ้านเมื่อขายผักเสร็จแล้วจะกลับไปที่กระท่อมเมื่อใกล้ทางเขาป่าเธอจะให้ เจ้าบุษบง หลับตาลง
จากนั้นเธอก็จะกอดเด็กหญิงเอาไว้แน่นแล้วหายวับพร้อมกับไปปรากฎตัวที่กระท่อมเพราะเธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอกับหลานพักอยู่ที่กระท่อมในป่า ทั้ง 2 ใช้ชีวิตอยู่อย่างนั้นเรื่อยมา จนกระทั่ง เจ้าบุษบง อายุได้ 12 ขวบ แล้วประภัสสรนั้นก็เริ่มเข้าสู่วัยชราเธอเริ่มรู้สึกว่ากำลังวังชาได้หายไปพอสมควร อีกทั้งเวทมนต์ที่มีอยู่ก็ได้เสื่อมลงจนเธอนั้นรู้สึกเป็นกังวล เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปโปรดติดตามตอนต่อไป
